มอยเจอร์ไรเซอร์สำคัญกับผิวคุณอย่างไร ?

มอยเจอร์ไรเซอร์

มอยเจอร์ไรเซอร์ (moiturizer) คือ ผลิตภัณฑ์สำหรับทาให้ความชุ่มชื้นกับผิว ประกอบด้วยสารหลายชนิด ซึ่งช่วยเพิ่มปริมาณน้ำในผิวหนัง โดยการลดการระเหยออกสู่ภายนอก และทำให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมให้ผิวชั้นบนมีการซ่อมแซมตัวเอง สารเหล่านี้ มีทั้งที่สร้างได้เองตามธรรมชาติ เช่น lipid, sterols และ ที่ถูกสังเคราะห์ได้

หน้าที่ของมอยเจอร์ไรเซอร์

  • ช่วยให้ผิวอ่อนนุ่ม ดูเรียบขึ้น ดูมีสุขภาพผิวที่ดี
  • ปกป้องและคงความแข็งแรงของชั้นผิวหนัง
  • ทำให้เกราะป้องกันของผิวหนังแข็งแรงขึ้น
  • ลดอาการแห้ง หยาบกร้าน ขุย

ส่วนประกอบหลักของมอยเจอร์ไรเซอร์

Humectants หรือสารที่ช่วยดูดความชุ่มชื้น จากชั้นหนังแท้มาสู่ชั้นหนังกำพร้า เมื่อความชื้นในบรรยากาศสูงกว่า 70% สาร humectants จึงจะสามารถดึงดูดน้ำเข้ามาสู่ผิวหนังได้ สารกลุ่มนี้เชื่อว่ามีความสามารถเทียบเท่ากับ natural moisturizing factor สารที่ใช้บ่อย ๆ ได้แก่ urea, glycerin, AHA, propylene glycerol, sodium PCA, sorbitol, ammonium lactate, butylene glycol, honey extract, sodium lactate, pyrrolidone carboxylic acid, gelatin, hyaluronic acid, วิตามินและโปรตีนบางชนิด ผลข้างเคียงคือเกิดการระคายเคืองได้

Occlusives หรือสารที่เพิ่มความชุ่มชื้นโดยลดการระเหยของน้ำออกจากผิว (transepidermal water loss) โดยใช้สารที่มีส่วนประกอบของน้ำมันปิดไว้ที่ผิวชั้นนอก ผิวชั้นบนสุดจึงได้ความชุ่มชื้นจากชั้นหนังกำพร้าและชั้นหนังแท้ สารที่ใช้บ่อยได้แก่ hydrocarbon oils/waxes (mineral oil, paraffin, petrolatum, squalene), silicone (cyclomethicone, dimethicone), vegetable oils (caster oil, corn oil, grape seed oil, soybean oil), animal oils (mink oil, emu oil), fatty acids (lanolin acid, stearic acid), fatty alcohol (lanolin alcohol, cetyl alcohol), wax esters (beeswax, sterayl stearate), vegetable waxes (carnauba wax, candelilla wax), phospholipids (lecithin), sterols (cholesterol, ceramides), polyhydric alcohols (propylene glycol dioleate), caprylic/capric triglyceride ซึ่งตัวที่มีประสิทธิภาพดีที่สุด คือ petrolatum สามารถลดการระเหยของน้ำออกจากผิวได้ถึง 99% อย่างไรก็ตาม สารเหล่านี้จะทำงานได้ดีที่สุดเมื่อทาในขณะที่ผิวยังชุ่มชื้นอยู่ คือหลังจากอาบน้ำภายใน 2-5 นาที แต่มักจะค่อนข้างเหนียวเหนอะหนะ มีผลข้างเคียงคือ ทำให้เกิดการอักเสบรอบขน (folliculitis) และ lanolin อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองหรือผื่นแพ้สัมผัส

Emollients คือสารที่ทำงานโดยเคลือบร่องผิวหนังชั้นบนสุด (stratum corneum) ทำให้ผิวดูเรียบ ลื่น อ่อนนุ่มขึ้น แต่ประสิทธิภาพไม่ดีเท่าสารกลุ่มอื่น สารที่ใช้บ่อยได้แก่ cyclomethicone, dimethicone copolyol, glyceryl sterates, isopropyl palmitate, lanolin, propylene glycol linoleate, cholesterol, squalene, fatty acid

Miscellaneous คือสารที่เติมลงไปเพื่อประโยชน์อื่น ๆ เช่น ฟื้นฟูผิวที่ถูกทำลาย สารกลุ่มนี้มักเป็นกลุ่มสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidant) ได้แก่ tocopherols, ascorbic acid สารบางชนิดเช่น citric acid, tartaric acid, ส่วน EDTA นั้น ไม่ได้ใส่เพื่อหวังผลในการต้านอนุมูลอิสระเป็นหลักแต่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของส่วนประกอบอื่น สารอื่น ๆ ที่ใช้บ่อยได้แก่ butylated hydroxytoluene (BHT), glycosphingolipids, hyaluronic acid, lactic acid, retinol, salicylic acid, allantoin

รูปแบบของมอยเจอร์ไรเซอร์

  • Oil อย่างเดียว: petrolatum
  • Oil-in water emulsion: water, petrolatum
  • Polymer-based: water, polyglycerylmethacrylate, petrolatum
  • Vegetable oil and wax: castor oil, corn oil, ozokerite, beeswax, paraffin, carnauba wax
  • Glycerin-rich: water, glycerin, petrolatum
  • Dimethicone and ceramides: water, petrolatum, dimethicone, ceramides

บทความโดย…พญ.ไพลิน พวงเพชร
สถาบันโรคผิวหนัง
http://dst.or.th/html/index.php?op=article-detail&id=918&csid=11&cid=23#.WFdW4FOLSUk