
ฝ้า (melasma) เป็นปัญหาผิวหนังที่พบได้บ่อยมากโดยเฉพาะในคนเอเชีย (ได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย) เป็นปัญหาที่ท้าทายแพทย์ผิวหนังทั่วโลก เนื่องจากรักษาให้หายขาดทำได้ยากมาก ดังนั้น การรักษาปัจจุบัน พบว่า มีหลากหลายจนทำให้คนไข้ต่างสับสน ทั้งครีมลอกฝ้า Hydroquinone, วิตามินเอ, Glycolic acid, vitamin C, Arbutin, Glutathione การกรอผิว Dermabrasion chemical peeling การใช้กรดผลไม้ผลัดเซลล์ผิว เลเซอร์ก็มีหลายชนิด ทั้ง Q-Switch ND Yag, Ruby, Alexandrite, IPL,Fractional laser การรักษามีมากมายจนคนไข้สับสน

คนไข้บางคนรักษามากเกือบทุกวิธี แต่ก็ยังไม่หาย ไม่ดีขึ้น บางคนฝ้ากลับเข้มขึ้น บางคนฝ้ากลับเข้มขึ้นหรือจนหน้าแดง ผิวบอบบาง แพ้ง่าย ระคายเคืองสู้แสงแดดไม่ได้
ดังนั้น ด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและความเชี่ยวชาญของแพทย์ จึงสำคัญในการเลือกทั้งที่ดีที่สุดให้ผู้ป่วย เพราะคนไข้แต่ละคนมีความต้องการและปัญหาที่แตกต่างกันไป รักษาคนไข้แต่ละบุคคล ไม่ใช่รักษาตามแบบเดียวกันหมด
วิธีการรักษา และการป้องกันฝ้า
- การใช้ Laser treatment เพื่อดึงเอาเม็ดสีใต้ผิวหนังออกเป็นการรักษาที่ตรงวิธีที่สุดโดยทางBSL clinic มีประสบการณ์มานานกว่า 30 ปี ในการดูแลคนไข้ที่มีปัญหาฝ้า ซึ่งใช้เลเซอร์แบบดึงเอาเม็ดสีออกร่วมกับการส่งผ่านสารที่สามารถหยุดยั้งการ สร้างเม็ดสีและมีความปลอดภัย เพื่อให้การรักษาได้ประสิทธิภาพมากขึ้นและที่สำคัญคือ ไม่กลับมาเข้มขึ้นหลังหยุดรักษา
- การรักษาด้วยเลเซอร์อีกชนิดคือการ รักษาด้วยเลเซอร์เพื่อให้เม็ดสีแตกออกและสลายไป (กลุ่ม Q –switch laser) ซึ่งจะดีผลดีขึ้นระหว่างการรักษาแต่จะทำให้เกิดจุดด่างขาวได้หลังการรักษา และถ้าหยุดรักษาก็จะมีโอกาสเข้มข้นจึงต้องทำไปเรื่อยๆตลอด(หยุดไม่ได้) ดั้งนั้นเราทีมแพทย์ BSL clinic จึงเห็นว่าการรักษาด้วยวิธีนี้ไม่ใช่การรักษาที่เหมาะสมและดีที่สุด
- เลือก ใช้สารที่สามารถหยุดยั้งการสร้างเม็ดสีและมีความปลอดภัย ผลิตภัณฑ์จาก Skinesia มีประสิทธิภาพในการลดเม็ดสี โดยสามารถทำงานหยุดยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีได้ครบทั้ง 4 ขั้นตอนคือ
- หยุดยั้งโรงงานผลิตเม็ดสี (Inhibition of melanocyte activation)
- หยุดยั้งสารตั้งต้นในการสร้างเม็ดสี (Reducing amountof tyrosinase)
- การหยุดยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสี โดยการขัดขวางเอนไซน์การสร้างเม็ดสี (Inhibiting tyrosinase activity)
- หยุดยั้งการส่งผ่านเม็ดสีสู่ชั้นผิวหนังและสามารถช่วยให้ฝ้าจางโดยลดการทำงานของ เซลล์สร้างเม็ดสี และทำให้เม็ดสีเมลานินลดลง (Blocking melanintransfer intokeratinocytes)

ทาง BSL clinic ไม่ใช้สารไฮโดรควิโนน (Hydroquinone) สารปรอท สารสเตียรอยด์ หรือสารอันตรายอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบให้ทำให้ผิวหน้าแดง และทำให้ผิวหนังบางแพ้ง่าย เกิดอาการด่างขาวหรือเกิดเป็นปื้นดำมากขึ้นแบบถาวร (Ochronosis)

การ ผลัดเซลล์ผิวหน้าด้วยสารเคมี (Chemical Peel) สามารถช่วยให้ฝ้าชนิดตื้นดูจางลงได้แต่ทาง BSL clinic ไม่แนะนำเนื่องจากหลังการรักษาทำให้หน้าบาง แดง แพ้ง่ายในที่สุดซึ่งจะดีในช่วงแรกเท่านั้นหลังจากนั้นฝ้าอาจกลับมาได้
เมื่อ ต้องออกไปนอกอาคารหรือเล่นกีฬากลางแดด ควรใช้หมวก ร่ม หรือ แว่นตากันแดด เพื่อช่วยปกป้องผิวจากแสงแดด ควรใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดชนิดที่ไม่มีสารเคมีทุกวัน เพื่อป้องกันไม่ให้ฝ้าขึ้นมาใหม่ ควรเลือกผลิตภัณฑ์กันแดดที่มี SPF ประมาณ 30ขึ้นไป และ UVAPA +++มีส่วนผสมของสารสะท้อนรังสี หรือมีส่วนผสมของกลุ่มวิตามินอีซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) โดยเฉพาะสารกันแดดที่ไม่มีสารเคมีหรือPhysical sunscreen จึงไม่ทำลายผิว
ควร หลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอาง เช่น ครีมหน้าขาวใสเร็ว สารเคมี สารกันบูด หรือสารปรอท ตะกั่ว อาจมีสารที่ทำให้เกิดการกระตุ้นฝ้าได้ง่าย

โดยมีสีผิวไม่สม่ำเสมอ

ร่วมกับการแก้ไขร่องใต้ตาด้วยสารเติมเต็ม
ที่ BSL clinic by Ananclinic







