การเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวของคุณ

การเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวของคุณ

โดยธรรมชาติแล้ว ผิวในวัยเยาว์ดูสดใส เปล่งปลั่ง มีน้ำมีนวล เนื่องจากเป็นช่วงวัยที่เซลล์ของชั้นผิวหนังเต็มไปด้วยสาร ceramides,sphingosine ,แนทเชอรัลมอยส์เจอร์ไรซิ่งแฟคเตอร์ (Natural Moistusing Factors) เช่น โซเดียมพีซีเอ (Sodium PCA) ยูเรีย (Urea) เกลือโซเดียมแลกเตท (Sodium Lactate Sail) โปรแตสเซียมซิเตรท (Potasium Citrate) เซอรีน (Serine) ไกลซีน (Giyaine) กรดกลูตามิก (Glutamic Acid) อะลานีน (Alanine) และ ไทโรซีน (Tyrosine)

มอยส์เจอร์ไรเซอร์ มีความสำคัญ อย่างมากในการช่วยทำให้ผิวนุ่มนวลอ่อนโยน เพราะมอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้าไปเสริมการทำงานของน้ำมันตามธรรมชาติของผิว และช่วยดึงน้ำหล่อเลี้ยงใต้ผิวมาใช้ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวหนังชั้นนอก ทำให้ผิวนุ่มนวลน่าสัมผัส โดยทั่วไปมอยส์เจอร์ไรเซอร์จำแนกเป็น 2 ประเภท คือ ปิโตรเลียมเจล (Petroleum Jelly) และสารเพิ่มความชุ่มชื้นฮิวเม็กเทนท์ (Humectant) ซึ่งทำหน้าที่ในการช่วยให้ผิวหนังกักเก็บน้ำจากเนื้อเยื่อของผิวไว้ไม่ให้ระเหยเร็วเกินไปการเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ควรเลือกให้เหมาะกับสภาพผิว และเลือกชนิดที่มีสารเพิ่มความชุ่มชื้น เช่น กลีเซอริน (Glycerin) , ยูเรีย (Urea), โซเดียมพีซีเอ (Sodium PCA) และกรดไฮอัลลูไรนิก (Hyaluronic Acid) ซึ่งเป็นสารที่ไม่มีน้ำมันเป็นองค์ประกอบ มีประสิทธิภาพในการช่วยเก็บกักน้ำใต้ผิว ลดการสูญเสียของน้ำตามธรรมชาติได้ ช่วยบำรุงผิวให้สดใสมีชีวิตชีวา ไม่ก่อให้เกิดอาการแพ้หรือระคายเคือง เช่น Panthenyl Triacetate and Naringenin, Shiso Extract นอกจากนี้ควรมีสารสกัดพิเศษ เช่น Phytosphingosine, ceramide complexes ที่เปรียบเสมือนเป็นการสร้างผิวหนังใหม่เพื่อมาปกป้องผิวอีกชั้นหนึ่ง เป็นต้น

คุณภาพของมอยส์เจอร์ไรเซอร์ เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึง ซึ่งสามารถพิจารณาได้จากการมีส่วนผสมที่มีคุณประโยชน์ต่อผิว เช่น สารสกัดจากธรรมชาติกลุ่มวิตามินซี นอกจากใช้บำรุงผิวหน้าให้ขาวใสแล้ว ยังมีประสิทธิภาพสูงในการดูแลผิวพรรณได้อย่างดีเยี่ยม เนื่องจากวิตามินซีมีความสามารถในการต้านอนุมูลอิสระ และยังเป็นองค์ประกอบร่วมของเอนไซม์ต่าง ๆที่ช่วยเสริมสร้างเส้นใยคอลลลาเจน (Collagen) ใต้ผิวหนังให้แข็งแรง

การทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ได้ผลดี ควรทาขณะที่ผิวยังชุ่มชื้นอยู่ เช่น ภายหลังจากการอาบน้ำ เพราะเนื้อครีมจะซึมเข้าสู่ผิวได้ดี สามารถกักเก็บน้ำที่เกาะอยู่ตามผิวหนังชั้นนอกสุด ช่วยอุ้มน้ำไว้กับผิวหนังได้นานขึ้น ไม่ระเหยออกไป ทำให้ผิวคงความชุ่มชื้น สดใส ไม่แห้งตึง หรือเป็นขุย และขณะทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ควรนวดผิวบริเวณที่ทาเพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด โดยเฉพาะบริเวณ เข่า ส้นเท้า เพราะเป็นบริเวณที่ไม่มีต่อน้ำมันผิวจึงแห้งกว่าบริเวณอื่น

ไม่ควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์สำหรับผิวกายมาทาใบหน้า เพราะอาจทำให้ผิวหน้าระคายเคืองได้ ส่วนมากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวกาย มีส่วนประกอบของน้ำมัน เมื่อนำมาทาผิวหน้า อาจทำให้รูขุมขน เกิดการอุดตันจนเกิดเป็นสิวได้ง่าย เคล็ดลับสำคัญของการเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ให้ได้ผลดีที่สุด อยู่ที่การเลือก มอยส์เจอร์ไรเซอร์ ให้ตรงกับสภาพผิว

การเลือกมอยส์เจอร์ไรเซอร์
ผิวแพ้ง่าย (ผิวแห้งๆ มันๆ สลับกัน)

ผิวแพ้ง่ายเป็นปัญหาที่พบบ่อยมากขึ้นจากประสบการณ์ของเรากว่า 30 ปี เนื่องจาการที่คนไข้ส่วนมากไปทำหัตถการบางชนิดมากขึ้นเช่น การลอกหน้า การทายาที่มีสารสเตียรอยด์ สารที่ทำให้หน้าขาว ยาทาฝ้าบางชนิด สารพวก Hydroquinone ทำให้ผิวหน้าบางและไวต่อแสง แพ้ง่าย

การรักษาโดยทีมแพทย์ BSL Clinic เป็นการรักษาทั้งจากภายในและภายนอก โดยการสร้างผิวหนังให้แข็งแรงขึ้นด้วยการกระตุ้นสร้างผิวใหม่

ขั้นตอนแรก คือการลดการระคายเคืองของผิวและการลดรอยแดง อาการแสบหรือคัน โดยการไปลดสารกระตุ้นที่ทำให้เกิดการอักเสบ เช่น IL-1 และ inflammatory cytokine อื่นๆ

ขั้นตอนที่สอง เป็นการกระตุ้นการสร้างผิวใหม่โดยใช้ครีม ที่เป็นสารความชุ่มชื่นใต้ผิวหนัง natural moisturising factors และ ceramides เพื่อสร้างผิวที่แข็งแรง

ขั้นตอนที่สาม เป็นการสร้างผิวหนังเพื่อมาปกป้องผิว เสมือนเป็นโครงสร้างของผิว โครงสร้างของผิวหนังประกอบด้วยโปรตีน 40%, น้ำและสารประกอบ 40% and ไขมัน 20% โดยฺ BSL clinic และ Skinesia ได้วิจัย ค้นคว้าและพัฒนาอย่างต่อเนื่องโดยทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์จากสารประกอบที่ดีที่สุดที่เป็นจุดกำเนิดของผิวหนัง เพื่อปกป้องและฟื้นฟูสภาพผิวจุดกำเนิดของผิวหนัง เพิ่มความชุมชื่นแก่ผิวโดยตรง

การรักษาในทุกขั้นตอนจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาเพื่อให้เกิดการสร้างผิวขึ้นมาใหม่ โดยผิวหนังจะสร้างได้อย่างสมบูรณ์จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน โดยสร้างคอลาเจนและโครงสร้างของผิวประมาณ 3 เดือน

☉  ผิวแห้ง

มีลักษณะบอบบาง รูขุมขนเล็ก ผิวอ่อนแอกว่าผิวประเภทอื่น ๆ เพราะชั้นไขมันใต้หนังแท้ของผิวแห้งจะบางทำให้เกิดอาการแพ้จากมลภาวะแวดล้อมเครื่องสำอาง และน้ำมันได้ง่าย เมื่ออายุมากขึ้น น้ำมันและเหงื่อจะลดลง ระบบการหมุนเวียนของเลือดเริ่มเปลี่ยนไป ส่งผลให้การผลัดของเซลล์ผิวช้าลงและการผลิตน้ำมันลดน้อยลงอย่างรวดเร็ว เมื่อผิวแห้งควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันร้อน หรือความสะอาดผิวบ่อย ๆ เพราะจะทำให้น้ำมันตามธรรมชาติของผิวลดลง

สำหรับผิวแห้งควรใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่เข้มข้นกว่าปกติ เพื่อป้องกันไม่ให้ผิวหนังสูญเสียน้ำ และช่วยให้น้ำคงอยู่กับผิวหนังได้นานขึ้นทำให้ผิวหนังไม่แห้ง นอกจากนี้ยังช่วยลดรอยเหี่ยวย่นเล็ก ๆ ตื้น ๆ ที่ผิวหนังได้ หรือเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของสารแนทเชอรัล มอยส์เจอร์ไรซิ่ง แฟคเตอร์ และ ceramide complexes และควรทามอยส์เจอร์ไรเซอร์โดยเฉพาะเมื่อต้องอยู่ในห้องแอร์ หรือ ในช่วงฤดูหนาวที่โอกาสแห้งกว่าปกติ เพราะผิวหน้ามักสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย

☉  ผิวมันและผิวปกติ

สำหรับผู้ที่มีผิวมันควรเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของอิวเม็กเทนท์เพราะซึมซาบเร็วและไม่ทำให้ผิวเหนียวเหนอะหนะ ความจริงแล้วผิวมันไม่ได้เป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดสิว น้ำมันที่หลั่งออกมาจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังนั้น มีหน้าที่เคลือบผิวให้ดูสดใส แต่สาเหตุที่ทำให้เกิดสิวเป็นเพราะคราบสกปรก ฝุ่นละออง และเครื่องสำอางที่ทำความสะอาดไม่หมดตกค้างอยู่ที่ผิว ผสมกับไขมัน ลงไปเกาะอยู่ในรูขุมขน ทำให้ผิวหนังอักเสบและเกิดสิว ส่วนผิวปกตินั้นมีน้ำมันเคลือบอยู่เล็กน้อย ดังนั้นผิวทั้งสองแบบจึงควรเลือกใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ชนิดไร้ไขมัน (Oil free)

อย่างไรก็ตาม เมื่อคุณมีอายุเพิ่มขึ้น ส่วนประกอบเหล่านี้จะลดลง เกิดการสูญเสียน้ำตามธรรมชาติ ทำให้ผิวของคุณแห้ง การใช้มอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่มีส่วนประกอบเหล่านี้จึงเป็นทางเลือกหนึ่งเพื่อทดแทนน้ำตามธรรมชาติที่สูญเสียไป