Revlite Laser

Revlite Laser

RevLite® เป็นเลเซอร์รุ่นใหม่ในกลุ่ม Q-switched laser ผ่านการรับรองถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลจาก FDA อย.ของอเมริกาเรียบร้อยแล้ว (ที่ถูกพัฒนาจากเลเซอร์กลุ่ม Medlite Series C3-C6 ) เพื่อใช้กำจัดเม็ดสีที่มีความผิดปกติโดยเฉพาะ จุดเด่นของเลเซอร์ revlite คือ การทำงานแบบสั้นและแม่นยำกับเม็ดสี ได้ผลดีมากขึ้น เร็วขึ้น และปลอดภัยมากขึ้น เหมาะกับทุกสภาพสีผิว ผลข้างเคียงน้อยกว่าเลเซอร์รุ่นเดิมๆ (การทำงานแบบ PhotoAcoustic Technology Pulse(PTP) ด้วยพลังงานของเลเซอร์ที่มากขึ้นแต่ระยะเวลาที่ยิงแสงสั้นลงมา และมีความจำเพาะต่อเม็ดสีที่แม่นยำขึ้น

เลเซอร์ Q-switched รุ่นก่อนใช้ระยะเวลาที่แสงเลเซอร์ลงไปสู่ผิวยาวกว่า และทำให้เกิดการสะสมของความร้อน Photothermal effect จึงส่งผลข้างเคียงต่อผิวของคนเอเชีย เพราะจะทำให้เกิดอาการดำหลังการรักษาได้ หรือที่เรียกว่า รอยดำ Post inflammatory hyperpigmentation-PIH แต่สำหรับ RevLite® จะมีเทคโนโลยี แบบ PTP ซึ่งสามารถแบ่งพลังงานออกเป็น 2 ช่วงทำ ให้ผิวหนังได้รับความร้อนในปริมาณที่พอเหมาะ ผลข้างเคียงจะน้อย ประสิทธิภาพจึงดีกว่าวิธีการดึงเอาเม็ดสีที่อยู่ใต้ผิวหนังออกมา โดยการใช้ เลเซอร์ Laser treatment เป็นวิธีที่ใช้แก้ปัญหาฝ้าได้เป็นอย่างดี ด้วยประสบการณ์ของทีมแพทย์ BSL clinic ที่ดูแลคนไข้ที่มีปัญหาผิวต่างๆมานานกว่า 30 ปี สำหรับการดูแลรักษาคนไข้ที่มีปัญหาเรื่องฝ้า การใช้เลเซอร์แบบดึงเอาเม็ดสีออกควบคู่กับการส่งผ่านสารที่สามารถช่วยหยุดยั้งการสร้างเม็ดสีและมีความปลอดภัย เพื่อผลการรักษาที่ได้ประสิทธิภาพมากขึ้น และที่สำคัญคือ ฝ้าไม่กลับมามีสีเข้มและขึ้นอีกภายหลังจากหยุดการรักษา

  • วิธีการทำลายเม็ดสีที่ผิดปกติให้แตกออกและสลายไป ด้วยวิธีการรักษาโดยเลเซอร์ (กลุ่ม Q –switch laser) จะส่งผลดีขึ้นในระหว่างการรักษา แต่อาจมีผลทำให้เกิดจุดสีขาวเมื่อหยุด หรือหลังการรักษาอาจมีโอกาสเข้มขึ้น จึงจำเป็นต้องทำการรักษาไปเรื่อยๆ วิธีนี้จึงไม่ใช่วิธีการรักษาที่ดีที่สุด
  • วิธีการหยุดยั้งการสร้างและกระตุ้นของเม็ดสีที่มีความปลอดภัยสูง ผลิตภัณฑ์จาก Skinesia ที่มีคุณสมบัติในการลดเม็ดสีได้อย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถทำงานหยุดยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีได้ครบทั้ 4 ขั้นตอนคือ
    • Inhibition of melanocyte activation การหยุดยั้งโรงงานผลิตเม็ดสี
    • Reducing amountof tyrosinase การหยุดยั้งสารตั้งต้นในการกระตุ้นสร้างเม็ดสี
    • Inhibiting tyrosinase activity การหยุดยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีโดยวิธีการขัดขวางเอนไซน์การสร้างเม็ดสีเมลานินให้ลดลง
    • Blocking melanin transfer into keratinocytes หยุดยั้งการส่งผ่านเม็ดสีสู่ชั้นผิวหนังและสามารถช่วยให้ฝ้าจางโดยลดการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสี และทำให้เม็ดสีเมลานินลดลง และสารต้านอนุมูลอิสระ จากนั้นก็จะทาครีมกันแดด

รูป ความแตกต่างของ Q-switched รุ่นก่อนแบบ  Single pulse กับ Revlite แบบ PTP Pulse

นอกจากนั้น RevLite® ยังมีถึง 4 ช่วงคลื่นทำให้มีความเจาะจงและครอบคลุมต่อการเม็ดสีต่างได้ทุกชนิดสี

รูป ความยาวคลื่นที่แตกต่างกันมีความจำเพาะกับเม็ดสีที่ต่างกัน ดังนั้นการรักษาที่ได้ผลดีจึงต้องใช้คลื่นแสงที่มีความเฉพาะกับเม็ดสีนั้นๆ

RevLite รักษาอะไรได้บ้าง ?

1. กำจัดจุดด่างดำที่ทำผิวไม่เรียบเนียน เช่น ฝ้า กระ กระแดด แดด (Pigmented Lesion Removal ) : เครื่อง เลเซอร์ RevLite® มีความโดดเด่นกว่าเลเซอร์เม็ดสีรุ่นก่อนๆ ในการรักษารอยโรคของเม็ดสีที่ผิดปกติ จึงสามารถแก้ปัญหาของรอยโรคต่างๆ ดังนี้

กระ freckles

ฝ้าทั้งแบบตื้นและแบบลึก Epidermal and Dermal Melasma

กระแดด solar lentigo (sun spots)

ตกกระsenile lentigo (age spots)

วงปื้นสีน้ำตาล-กาแฟcafé-au-lait birthmarks

ปานNevus of Ota, nevus spilus

รักษารอยดำในทุกๆ ส่วนของร่างกาย เช่น รอยคล้ำบริเวณรอบดวงตา ริมฝีปากดำ หัวนมดำคล้ำ ซอกรักแร้-ซอกขาหนีบ เป็นต้น 

รูปภาพ ภาพก่อนและหลังการรักษาเม็ดสี Dermal pigmented Lesion

2. Anti-Aging Maintenance : ให้ผิวดูอ่อนเยาว์วัยขึ้น ช่วยแก้ปัญหารอยเหี่ยวย่น ด้วยเทคนิค PTP “Shockwave” ซึ่งช่วยกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนและการจัดเรียงคอลลาเจนใหม่ตามธรรมชาติผลที่ได้คือ ผิวหน้าถูกยกกระชับขึ้นรวมทั้งยังช่วยฟื้นผิวตามส่วนต่างๆของร่างกาย เช่น บริเวณมือ คอและหน้าอก ให้เรียบเนียนเต่งตึงดูเยาว์วัยขึ้นด้วย และไม่ต้องพักฟื้น ไม่มีผลข้างเคียงหลังการรักษา

3. Acne ScarReduction สามารถรักษา รอยหลุม แผลเป็นจากสิว : ที่มีความยาวช่วงคลื่น 1064 nm infrared wavelength ของ RevLite® ที่ทำให้รอยหลุมสิว ตื้นขึ้นได้ มีรายงานว่า รักษาเพียงครั้งเดียวก็ทำให้หลุมสิวตื้นขึ้นได้ประมาณ 23% ส่วนรอยดำจากสิวซึ่งเกิดหลังจากการอักเสบของสิวผลที่ได้จะดีขึ้นอย่างรวดเร็ว จากคุณสมบัติของ RevLite® ในการกำจัดเม็ดสีที่ผิดปกติได้อย่างดีเยี่ยม จึงจัดเป็นเลเซอร์ที่สามารถรักษารอยดำได้ดีมากเช่นกัน ด้วยผลการรักษาที่เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว เหมาะกับทุกสภาพผิว และไม่มีผลข้างเคียงใดหลังการรักษา

4. Muti-Colored Tattoo Removal ลบรอยสักทุกสี: RevLite® และ Medlite ถือเป็นเป็นเลเซอร์ที่สามารถลบรอยสักที่ได้ผลที่ดีที่สุดในปัจจุบัน (Gold Standard device for multi-color tattoo removal ) เพราะสามารถลบรอยสักได้ตั้งแต่สีดำ สีแดง สีเขียว แม้แต่สีน้ำเงิน ฯลฯ เนื่องจากเลเซอร์ที่มีความหลากหลายช่วงคลื่นให้เลือกใช้ ทำให้หลังการทำสีผิวจะกลับมาเป็นเหมือนปกติ ลบรอยสักได้อย่างหมดจด ไม่ปรากฏเม็ดสีให้หลงเหลืออยู่เลย ที่สำคัญไม่เกิดรอยแผลเป็นหรือรอยด่างขาวหลังทำ ซึ่ง YAG lasers แบบเดิมๆ ที่จะลบรอยสักได้แค่บางสีเท่านั้น

ภาพก่อนและหลังการลบรอยสัก​

5. Hair Removal กำจัดขนถาวร : สามารถกำจัดขนได้ทุกชนิด แม้กระทั่งขนอ่อนบนใบหน้า หรือขนที่สีไม่เข้มที่จุดซ่อนเร้นด้วยเทคนิค PhotoAcoustic Technology Pulse® (PTP) ด้วยคุณสมบัติของเครื่องที่มีพลังงานสูงและมีความจำเพาะกับเม็ดสีมาก จึงทำให้กำจัดขนที่บางและเล็กได้และที่สำคัญคือไม่ทำลายผิว สามารถกำจัดขนได้ทุกส่วนของร่างกาย ทำให้ไม่ทรมาน หรือเจ็บมาในขณะที่รักษา

การรักษาใช้เวลานานไหม ?

แพทย์ใช้เวลายิงเลเซอร์ประมาณ 10-30 นาที เมื่อพลังานเลเซอร์โดนเม็ดสีจะได้ยินเสียงแปะๆๆ หลังการทำเลเซอร์จะมีการทาครีมที่มีคุณสมบัติสามารถหยุดยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีได้ครบทั้ง 4 ขั้นตอนคือ

  1. หยุดยั้งโรงงานผลิตเม็ดสี (Inhibition of melanocyte activation)
  2. หยุดยั้งสารตั้งต้นในการสร้างเม็ดสี (Reducing amount of tyrosinase)
  3. การหยุดยั้งกระบวนการสร้างเม็ดสีโดยการขัดขวางเอมไซน์การสร้างเม็ดสี (Inhibiting tyrosinase activity)
  4. หยุดยั้งการส่งผ่านเม็ดสีสู่ชั้นผิวหนังและสามารถช่วยให้ฝ้าจางโดยลดการทำงานของเซลล์สร้างเม็ดสี  และทำให้เม็ดสีเมลานินลดลง  (Blocking melanin transfer into keratinocytes) และสารต้านอนุมูลอิสระ จากนั้นก็จะทาครีมกันแดด

RevLite เจ็บไหม?

ลักษณะอาการคล้ายมดกัด หรือเหมือนโดนดีดผิว เฉพาะบริเวณที่มีเม็ดสีมาก เช่น กระ ฝ้า หรือ จุดด่างดำต่างๆ ระหว่างการยิงเลเซอร์จะมีการพ่นไอเย็นจัดอุณหภูมิประมาณ -40 องศาเซลเซียส ทำให้คนไข้รู้สึกสบายขึ้นขณะที่ทำการรักษา

การปฎิบัติตัวหลังการรักษา ?

หลังการรักษาผิวคนไข้จะมีสีแดงชมพูเล็กน้อย และจะหายไปเองไม่เกิน 24 ชม. สามารถแต่งหน้า ไปทำงานใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ โดยคนไข้สามารถล้างหน้าได้ตามปกติแต่ไม่ควรขัดถู หลังการรักษา ควรทาครีมกันแดดเพื่อปกป้องผิว และพยายามหลีกเลี่ยงแสงแดดหลังทำประมาณ 5-7 วัน

จำนวนครั้งในการทำและทำการรักษาบ่อยแค่ไหน?

ซึ่งขึ้นอยู่กับลักษณะของโรงที่รักษา แต่โดยประมาณ 2-4 อาทิตย์ครั้ง หรือคนไข้บางคนอาจทำเพียงครั้งเดียวก็สามารถเห็นได้ หรือบางคนอาจทำ 2-6 ครั้ง ขึ้นอยู่กับรอยโรคและสภาพผิวของคนไข้แต่ละคน โดยค่าใช้จ่ายเริ่มต้นที่ 2,000 บาทต่อครั้ง