ลบรอยสัก

ลบรอยสัก

การลบรอยสัก วิธีการรักษาคือการ เอาเม็ดสีที่เกิดจากสักออกจากผิวหนังโดยไม่เกิดรอยแผลเป็นหลังการรักษาและผิวข้างเคียงและผิวด้านบนจะต้องได้รับผลกระทบน้อยที่สุด มีด้วยกันหลายวิธี

การใช้เลเซอร์ในการรักษาก็มีหลายชนิด โดยหมอจะแยกตามชนิดของสี

  1. รอยสักที่เป็นสีดำ เทา ต้องใช้เลเซอร์ที่มีความเร็วแสงมากจึงจะได้ผลดีเช่นในกลุ่ม Q switch laser โดย BSL clinic เลือกใช้ในความยาวคลื่น 694 mm เนื่องจากมีความจำเพาะกับเม็ดสีดำสูงมากและสามารถทำเลยเม็ดสีและทำให้เกิด แผลเป็นน้อย ไม่มีเลือดออก ทำไมต้อง Q switch เพราะการกระทบเม็ดสีที่เร็วมากถึง 10 ยกกำลังลบ 9 หรือ ร้อยล้านส่วนของ 1 วินาที ทำให้การรักษาได้ประสิทธิภาพ
  2. รอยสักที่เป็นสีเขียว จะรักษาได้ยากกว่าสีดำจึงจำเป็นในใช้เลเซอร์Q switchRuby laser เพื่อทำให้เกิดการแตกตัวของเม็ดสี หลังจากนั้นรอยสักจะจางหายไป
  3. รอยสักที่เป็นสี แดง ส้ม เลเซอร์ที่เหมาะมี 2 ชนิด คือ ช่วงคลื่น 595 mm หรือlong pulse1064 mmในกลุ่ม vascular laser เพราะมีความจำเพาะกับเม็ดสีแดง โดยในส่วน 595 mm เหมาะกับเม็ดสีแดงที่อยู่ตื้น ส่วน 1064 mm เหมาะกับเม็ดสีแดงที่อยู่ลึก
  4. รอยสักที่เป็นสีเหลือง การรักษาจะหายยากกว่าสี ดำ หรือ แดง เนื่องจากไม่มีเลเซอร์ที่เฉพาะกับสีเหลืองแต่เลเซอร์ที่สามารถรักษาได้ดีที่ สุดคือ ช่วงคลื่น 595 mm หรือ Q switch laser1064 mm โดยการรักษาใช้หลายครั้ง
  5. รอยสักที่เป็นสีน้ำเงิน ม่วง เลเซอร์ที่เหมาะกับสีน้ำเงินคือ Q switch Ruby laserเพราะมีความจำเพาะกับเม็ดสีน้ำเงินสูง
  6. รอยสักที่อยู่ตื้น เช่น ที่ตาเป็นลักษณะ eyeliner สามารถใช้เลเซอร์ที่เอาเม็ดสีออกด้านบนได้โดยการรักษาเพียง 1-2 ครั้งก็จะหายได้

การสักนั้นง่ายแต่การลบจำเป็นต้องใช้เวลาและจางหายได้โดยไม่ทำให้เกิดแผลเป็น  ดังนั้นการรักษารอยสักต้องใช้เวลาในการรักษาเพื่อให้เม็ดสีแตกออกและร่างกายค่อยๆกำจัดตามธรรมชาติ

ภาพก่อนและหลังการลบรอยสัก

ภาพก่อนและหลังการลบรอยสัก

ภาพก่อนและหลังการลบรอยสัก