ริมฝีปากคล้ำ

ริมฝีปากคล้ำ

ปัญหาริมฝีปากคล้ำ เป็นปัญหาที่ทำให้เกิดความกังวลทั้งหญิงและชาย เป็นสิ่งหนึ่งที่บ่งบอกถึงการดูแลสุขภาพได้เป็นอย่างดี การเปลี่ยนแปลงสีที่ริมฝีปาก เป็นลักษณะเฉพาะของแต่ละบุคคล เช่น คนผิวคล้ำก็มีโอกาสที่จะมีริมฝีปากเข้มมากกว่าคน ผิวขาว บางคนอาจปากคล้ำตั้งแต่เกิดหรือเพิ่งมามีอาการภายหลัง นอกจากนั้นก็ยังขึ้นอยู่สภาพแวดล้อม เป็นไปตามวัย ที่เมื่ออายุมากขึ้น สีของริมฝีปากก็เริ่มคล้ำขึ้นเรื่อยๆ 

ปัจจัยการเกิดริมฝีปากคล้ำ

  1. สีของริมฝีปากที่มีลักษณะเฉพาะบุคคลอาจถ่ายทอดมากจากกรรมพันธุ์ เช่น คนผิวคล้ำมักมีริมฝีปากสีเข้มมากกว่าคนผิวขาว
  2. อุณหภูมิ อากาศ ก็อาจมีผลทำให้สีริมฝีปากเปลี่ยนแปลงได้ เช่นช่วงที่อากาศหนาวเย็น ปากอาจจะมีสีคล้ำขึ้น เพราะเส้นเลือดหดตัวและมีสีดำมาคั่งค้างมากกว่าปกติ
  3. ผู้ป่วย ที่เป็นโรคหัวใจที่เลือดมีความเข้มข้น ก็จะทำให้ริมฝีปากดูคล้ำกว่าคนปกติได้ หรือเป็นเป็นเลือดจาง ป่วยเรื้อรัง หรือระยะฟื้นไข้ อาจทำให้เลือดไหลมาเลี้ยงริมฝีปากน้อยทำให้ริมฝีปากซีดเซียว ไม่มีสีสัน
  4. อาหารบางชนิดก็ทำให้เกิดปัญหา ริมฝีปากคล้ำได้ เช่น ผักขึ้นฉ่าย ผักชี ฝรั่ง หอม กระเทียม ขิง หรือผลไม้รสเปรี้ยวพวกส้ม สับปะรด มะม่วง ฯลฯ ของเหล่านี้มีสารที่ชื่อว่า โซราเลน (psoralen) สารดังกล่าวเมื่อตกค้างตามริมฝีปากก็ไม่ได้ทำให้เกิดปัญหาแต่อย่างไร แต่ถ้าสารเหล่านี้สัมผัสกับสารอัลตราไวโอเลตในแสงแดด ก็จะเกิดปฏิกิริยาทางเคมีที่ทำให้ริมฝีปากอักเสบ และมีการกระตุ้นเซลล์สร้างให้สร้างเม็ดสีออกมามาก ๆ จน ปากดำคล้ำ (ทางการแพทย์เรียกว่าปฏิกิริยาแพ้แดด)
  5. ยารักษาโรคบางชนิดอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดปฏิกิริยาแพ้แดดได้ เช่น เบาหวาน ยาขับปัสสาวะ ยารักษาเชื้อรา ยารักษาหวัดหรือโรคภูมิแพ้
  6. สิ่งที่ใช้ในชีวิตประจำวันส่วนใหญ่อาจทำเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิด ปัญหาริมปีฝากแห้ง ปากแตก ลอกเป็นขุย โดยที่เรามักคาดไม่ถึง เช่น ยาสีฟันและน้ำยาบ้วนปาก ที่มีส่วนผสมของ ฟลูออไรด์หรือ แอลกอฮอล์ในปริมาณสูง รวมถึงสารที่ทำให้เกิดฟอง และสารที่ทำให้เกิดความสดชื่นที่มีรสเผ็ดซ่าในยาสีฟัน
  7. ลิปสติกที่เป็นตัวช่วยในการสร้างสีสันให้ปาก สารประกอบของมันนั้นอาจทำให้เกิดปัญหาปากคล้ำ เช่น สี กลิ่น น้ำหอม ลาโนลิน (ที่ให้ความชุ่มชื้น) และสารกันบูด
  8. การดื่มน้ำน้อย หรือการทำงานในห้องปรับอากาศที่เย็น เป็นสาเหตุอย่างหนึ่งที่ทำให้ริมฝีปากแห้ง
  9. พฤติกรรมการเลียริมฝีปาก เป็นสาเหตุที่ทำให้ริมฝีปากแห้ง หลายคนคิดว่าการเลียปากอาจช่วยให้ปากไม่แห้ง แต่กลับไม่ใช่เพราะเอนไซม์ที่ช่วยย่อยอาหารในน้ำลายจะยิ่งรบกวนริมปากให้แห้งมากขึ้น
  10. การใช้ลิปปาล์มเป็นเวลานานๆ ก็ทำให้ริมฝีปากแห้งได้ เพราะลิปปาล์มจะช่วยให้ริมฝีปากไม่แห้งได้แค่ชั่วคราว เพราะสารสำคัญที่ผสมอยู่ในลิปปาล์มทั่วไปจะดูดความชื้นของริมฝีปาก จึงต้องทาลิปปาล์มบ่อยๆ จนเป็นสาเหตหนึ่งที่ทำให้ริมฝีปากแห้ง
  11. ไม่ทราบถึงสาเหตุที่แน่ชัด คนไข้ส่วนใหญ่แม้จะพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยต่างๆที่จะทำให้เกิดปัญหาแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อการรักษาที่ตรงจุด และปลอดภัยในระยะยาว

วิธีการรักษา

พยามหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นหรือสารเคมี ที่เป็นสาเหตุของปัญหา ริมฝีปากคล้ำ แห้ง แตก และลอกเป็นขุย ซึ่งวิธีแก้ปัญหาไม่ใช่เรื่องยากโดยปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้

ควรหลีกเลี่ยงสารเคมีหรือสิ่งกระตุ้น ที่ต้นตอของปัญหา ริมฝีปากดำคล้ำ แห้ง แตก และลอกเป็นขุย วิธีแก้ไขก็ไม่ใช้เรื่องยากเย็นอะไรเลย โดยปฏิบัติตามคำแนะนำต่อไปนี้ คือ

  1. การดื่มน้ำมากๆ เพื่อให้ความชุ่มชื้นมากเพียงพอถึงทุกส่วนของผิวหนัง รวมถึงริมฝีปาก เพราะยิ่งอายุที่มากขึ้น เซลล์ต่างๆในร่างกายจะเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลง การดื่มน้ำจึงเป็นตัวช่วยที่ดี
  2. หลังรับประทานผักและผลไม้เสร็จควรล้างปากให้สะอาดทุกครั้ง
  3. อาจเปลี่ยนยี่ห้อยาสีฟันที่มีฟองเยอะ รสเผ็ดซ่า ให้เป็นยี่ห้อที่มีฟองน้อยลง เผ็ดซ่าน้อยลง หรืออาจเป็นยาสีฟันของเด็กไปเลย การทาวาสลินขาวเคลือบริมฝีปากก่อนแปรงฟัง เพื่อป้องกันฟองยาสีฟันที่อาจเปื้อนริมฝีปาก หากไม่มีวาสลินขาวอาจใช้เบบี้ออยล์ (baby oil) แทนก็ได้
  4. พยายามอย่าเลียริมฝีปากที่อาจช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื่นขึ้น แค่ชั่วคราว แต่เมื่อความชื้นระเหย กลับทำให้ริมฝีมากแห้งมากขึ้น
  5. ทาวาสลินขาวแทนลิปกลอสหรือลิปม้นที่แห้งหรือแข็งเกินไป หรือใช้ลิปปาล์มที่มีสารจากธรรมชาติ ที่มีสารป้องกันแสงแดดอยู่ด้วย

การรักษาด้วยเลเซอร์ เป็นการรักษาที่เห็นผลที่สุดในปัจจุบันด้วยการใช้เลเซอร์ที่ได้มาตรฐานที่พบได้บ่อยคือ ไม่ทราบสาเหตุ  ซึ่งไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุใดสามารถรักษาได้โดยการยิง laser ที่ทำลายเม็ดสีที่ผิดปรกติโดยเฉพาะ เช่น Q-Switch Ruby Laser ซึ่งโดยทั่วไปทำการรักษาเพียง 1-3 ครั้ง ก็จะเห็นผลส่วนผลที่ได้จะมากน้อยขึ้นอยู่กับแต่ละบุคคล ก่อนยิงจะมีการทายาชาที่ริมฝีปาก ขณะที่ทำจะรู้สึกเหมือนถูกหนังสติ๊กดีดที่ริมฝีปากหลังยิงปากจะบวมแดงเล็กน้อย และเริ่มเป็นสะเก็ดใน 2-3 วันสะเก็ดจะเริ่มลอกเผยให้เห็นสีชมพูภายใน 1 สัปดาห์แพทย์จะนัดมาดูผลและทำการรักษาซ้ำในอีก 7-10 วัน