
การดูดไขมัน
การมีไขมันส่วนเกินตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย เป็นสิ่งที่ไม่เป็นที่พึงปรารถนาของผู้ใด ดังนั้นจึงมีการคิดค้นวิธีที่จะต่อสู้กับร่างกายเพื่อลดสัดส่วนลง และวิธีการต่าง ๆ ดังเช่น การออกกำลังกาย การควบคุมอาหาร และการนวดเพื่อลดสัดส่วนได้มีการกระทำต่อเนื่องกันมาเป็นระยะเวลานานเพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว แต่ในปัจจุบันการดูดไขมันได้กลายมาเป็นทางเลือกใหม่ในการขจัดเซลล์ไขมันส่วนเกินเฉพาะส่วนได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย
สาเหตุของความอ้วน
คือ เซลล์ไขมันที่สะสมอยู่ใต้ผิวหนังโดยทั่วไปจะมีจำนวนคงที่ ไม่เปลี่ยนแปลงแต่เมื่อมีการขยายตัวของเซลล์เนื่องจากการสะสมของกรดไขมันทำให้ผู้ที่มีเซลล์ไขมันในปริมาณมากมีการขยายสัดส่วนมากกว่าผู้ที่มีเซลล์ไขมันในปริมาณที่น้อยกว่า การดูดไขมันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาความอ้วนหรือการลดน้ำหนัก แต่เป็นวิธีการดูดเอาเซลล์ไขมันออกจากชั้นผิวหนัง ซึ่งทำได้โดยใช้ท่อขนาดเล็กต่อกับเครื่องดูด เจาะผ่านผิวหนังเพื่อดูดเซลล์ไขมันที่ไม่ต้องการออก จุดมุ่งหมายคือ เพื่อลดปริมาณเซลล์ไขมันในบริเวณที่มีเซลล์ไขมันสูง ซึ่งเมื่อเซลล์ไขมันในร่างกายมีปริมาณลดลง และเมื่อมีการขยายตัวของเซลล์นั้น จะไม่ทำให้สัดส่วนขยายมากเท่ากับช่วงก่อนผ่านการทำศัลยกรรม
ส่วนใดของร่างกายที่สามารถดูดไขมันได้
บริเวณที่มีการทำศัลยกรรมดูดไขมัน และทำได้ผลดี คือ คาง คอ แก้ม สะโพก หน้าท้อง เอว เข่า ต้นขา และแขน รวมไปถึงเต้านมของผู้ชายที่มีขนาดใหญ่ผิดปกติ เป็นต้น
คนทั่วไปดูดไขมันได้ผลดีหรือไม่
การผ่าตัดในหญิงชายซึ่งมีสุขภาพดี และอายุยังน้อย มักได้ผลดีกว่าในผู้ที่มีอายุมากเนื่องจากสภาพผิวหนังมีความยืดหยุ่น (Elasticity) มากกว่า เมื่อผ่านการดูดไขมันแล้ว ผิวสามารถกลับสู่สภาพเดิม และคงความกระชัย ไม่หย่อนคล้อย ซึ่งในปัจจุบันได้มีการพัฒนาวีการใหม่ ๆ ซึ่งสามารถใช้ได้ผลดีกับทุกเพศทุกวัยที่มีสุขภาพแข็งแรง
การดูดไขมันต้องวางยาสลบไหม
การดูดไขมันในบริเวณพื้นที่ขนาดเล็ก สามารถใช้เพียงการฉีดยาชาเฉพาะที่ แต่ในกรณีของการดูดไขมันในพื้นที่ขนาดใหญ่ อาจใช้การให้ยาชาเฉพาะส่วน (Regiional Anesthesia) หรือการวางยาสลบ (General Anesthesia)
การดูดไขมันมีอันตรายหรือไม่
ในแต่ละปี มีผู้ผ่านการดูดไขมันหลายหมื่นคนในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้ผลดีและมีอาการแทรกซ้อนน้อยมาก ควรทำในสถานพยาบาลที่มีบุคลากรที่ชำนาญการเฉพาะทาง และมีเครื่องมือที่เพียบพร้อม แต่อย่างไรก็ตาม ควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนทำเสมอ
ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นจากการดูดไขมัน
- 1-2 สัปดาห์แรก บริเวณที่ดูดไขมันอาจมีลักษณะจ้ำเลือดแต่หลังจากนั้นจะจางหายไปเอง
- อาจมีอาการชาบริเวณรอยแผล ซึ่งจะหายภายใน 2-3 เดือน
- การติดเชื้อมีโอกาสต่ำ หากเกิดขึ้น สามารถใช้ยาปฏิชีวนะ (Antibiotic) รักษาได้
ข้อควรปฏิบัติหลังการดูดไขมัน
หลังการดูดไขมัน แพทย์จะปิดแผลไว้ด้วยเทป หรือใช้สเตย์ รัดบริเวณที่ดูดไขมัน เพื่อประคองผิวด้านในรอยแผลประมาณ 5-7 วัน ยกเว้นกรณีดูดไขมันบริเวณท้อง ที่อาจต้องใส่สเตย์ต่อไปอีก 2-4 สัปดาห์ เพื่อประคองกล้ามเนื้อให้เข้ารูป โดยปกติรอยแผลบริเวณที่ดูดไขมันมีพื้นที่เล็กมากจึงอาจรู้สึกเจ็บเพียงเล็กน้อย และแผลจะหายเป็นปกติได้ทันทีหลังการดูดไขมัน และกลับไปทำงานได้ตามปกติภายใน 3-4 วัน หลังการดูดไขมัน ควรงดออกกำลังกายในช่วง 3 -4 สัปดาห์แรก แต่หลังจากนั้นควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอเพื่อป้องกันการขยายของเซลล์ไขมันที่เหลืออยู่ อันอาจจะก่อให้เกิดปัญหาสัดส่วนเกินได้อีก